รู้จักกับ KKP กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ที่พร้อมเติบโตแบบก้าวกระโดดด้วยเทคโนโลยี – SMS Marketing ราคาถูกที่สุด
ในช่วง 3-4 ปีมานี้ อุตสาหกรรมการเงินและการลงทุนได้เปลี่ยนแปลงไปจนจำภาพในอดีตแทบไม่ได้ ทั้งการใช้ อี-แบงก์กิ้ง ผ่านสมาร์ทโฟน การจ่ายเงินหรือโอนเงินด้วยการสแกน QR Code ที่ใช้กันง่ายๆ ทั่วไปตั้งแต่พี่วินมอเตอร์ไซค์ แม่ค้าข้าวแกงในตลาด ไปจนถึงร้านหรูๆ จากระบบที่หลายคนเคยคิดว่าต้องใช้เวลานานกว่าจะเข้าถึงคนหมู่มากได้นั้น กลายเป็นระบบที่ทุกคนต้องมี ต้องใช้ และขาดไม่ได้เลยในตอนนี้
ด้วยเหตุนี้ ทำให้เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการเงินและการลงทุนต่างๆ มีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัว ทั้งการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ช่วยให้ลูกค้าสะดวกสบายมากขึ้น และการดูแลรักษาระบบเหล่านี้ให้มีความเสถียร ลูกค้าใช้งานได้ไม่สะดุด
จากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ทำให้ธุรกิจการเงินและการลงทุนมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด โดยกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร หรือ KKP ก็ได้เร่งพัฒนาเทคโนโลยีและสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยล่าสุดได้พัฒนาแอปพลิเคชัน KKP MOBILE ให้กลายเป็น Super App ที่ทำได้ครบจบในแอปเดียวทั้งการเปิดบัญชี โอนเงิน จ่ายบิล ซื้อประกัน ขอสินเชื่อ และลงทุนผ่านฟีเจอร์ EDGE Invest นอกจากนี้ยังได้เปิดตัวแอปพลิเคชัน Dime! ทางเลือกใหม่สำหรับลูกค้าที่ต้องการฝากเงิน หรือลงทุนด้วยเงินเริ่มต้นที่ต่ำที่สุด
ปัจจุบัน KKP กำลังมุ่งหน้าพัฒนาระบบไอทีและแอปพลิเคชันต่างๆ ของธนาคาร ที่กำลังเติบโตแบบก้าวกระโดด เพื่อมุ่งสู่การเป็นธนาคารดิจิทัลที่มีคุณภาพ พร้อมมองหาชาวไอทีรุ่นใหม่ไฟแรงเข้ามาร่วมงานและเติบโตไปด้วยกัน
หนึ่งในหัวเรือใหญ่ของ KKP ที่คอยชี้แนะทิศทางการพัฒนาและการเติบโตในสมรภูมิ อี-แบงก์กิ้ง ที่กำลังร้อนระอุ ก็คือ พี่ฟิลิป เชียง ชอง แทน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (President of Kiatnakin Phatra Bank) ซึ่งจะมาเล่าถึงจุดแข็ง และสิ่งที่ดึงดูดให้คนเข้ามาทำงานกับ KKP ให้พวกเราชาว Blognone ฟังกัน
จุดแข็งของ “เกียรตินาคินภัทร” คืออะไร?
พี่ฟิลิปเล่าให้เราฟังว่า จุดเด่นของวัฒนธรรมองค์กรของ KKP หลักๆ มี 3 ข้อ คือ
เป็นองค์กรไทยที่มีวิสัยทัศน์ระดับโลก เราทำงานอย่างเข้าใจบริบทคนไทยและประเทศ แต่ให้บริการแบบมาตรฐานโลก ด้วยระบบการทำงานที่เป็นสากล คุยกันด้วยเหตุผล และได้เปรียบองค์กรอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกันตรงที่เป็นธนาคารใหม่ที่มีอายุน้อยกว่า มีระเบียบขั้นตอนที่ยุ่งยากน้อยกว่า จึงทำให้มีความคล่องตัวมากกว่า
เป็นองค์กรใหม่ที่มีโอกาสเติบโตสูง เพราะยังมีความท้าทายใหม่ๆ มีสิ่งใหม่ๆ ให้ได้ลองทำอยู่เสมอ เป็นช่วงเวลาที่สนุก แต่พี่ฟิลิปก็ย้ำว่าสนุกในที่นี้ไม่ได้แปลว่าจะเข้ามาเจองานง่ายๆ เรายังต้องทุ่มเททำงาน และอาจมีช่วงที่ต้องเหนื่อยบ้าง ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่พร้อมจะเติบโตไปด้วยกัน โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา KKP ก็สามารถเติบโตได้ถึง 60% แม้ว่าจะต้องเจอกับวิกฤตโรคโควิดระบาดก็ตาม
มีวัฒนธรรมองค์กรที่ดีและยุติธรรม การเลื่อนตำแหน่งดูกันที่ผลงาน แข่งกันที่ความสามารถ ไม่เกี่ยวกับใครอยู่นานกว่าใคร โดยพี่ฟิลิปยกตัวอย่างตำแหน่งรองกรรมการบริหาร (Executive Vice President) ที่เฉลี่ยอายุการทำงานกับ KKP อยู่ที่ราวๆ คนละ 8 ปี เท่านั้น รวมทั้งเรื่องสวัสดิการที่เน้นความเท่าเทียม เบิกค่ารักษาพยาบาลได้เท่ากันทุกระดับ ไม่มีใครมีสิทธิพิเศษเหนือกว่าใคร แม้แต่ซีอีโอก็ยังต้องมาจับฉลากจองที่จอดรถเหมือนกับพนักงานทุกคน
คุณฟิลิป เชียง ชอง แทน, กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร
ทำไมถึงควรทำงานกับ KKP?
ในคำถามนี้ พี่ฟิลิปตอบเราได้แบบเต็มปากเต็มคำว่า “ตั้งแต่ทำงานมา ไม่ว่าจะเป็นบริษัทเล็กหรือใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทในไทยหรือต่างชาติก็ตาม KKP เป็นที่ทำงานที่ทำให้พี่ฟิลิปมีความสุขที่สุด แม้จะทำงานหนักแต่ก็กลับบ้านนอนหลับสบาย ไม่ต้องมากังวลเรื่องการเมืองภายใน หัวหน้างานและผู้บริหารทุกระดับพร้อมที่จะสนับสนุนพนักงาน คุยกันด้วยเหตุผล ทุกคนอยู่กันด้วยผลงาน ทุกงานที่ทำไม่ได้เกิดจากการถูกสั่งให้ทำ แต่มาจากการที่ทุกคนรู้ว่า สิ่งที่ทำนั้นจะช่วยให้ KKP ดีขึ้นได้อย่างไร”
พี่ฟิลิปบอกว่า “ถ้าคุณเป็นคนสายไอทีที่ได้เข้ามาร่วมงานกับ KKP คุณจะได้ลงมือทำงานจริง ได้พบกับวัฒนธรรมการทำงานที่สนุกสนานและยุติธรรมแน่นอน ในขณะเดียวกัน เรายังเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้ลองเข้ามาทำงานกับ KKP และมอบโอกาสให้ทุกคนได้สร้างการเติบโตไปด้วยกัน”
KKP อยากได้คนไอทีแบบไหน?
พี่ฟิลิปมองว่า คำพูดที่ว่าดิจิทัลคืออนาคตอาจจะเก่าไปแล้ว ตอนนี้ดิจิทัลคือปัจจุบัน และการจะทำดิจิทัลให้เป็นปัจจุบันได้สำเร็จจริงนั้น KKP ต้องการคนรุ่นใหม่ไฟแรงที่เป็น Digital Native ที่มีความคิดแตกต่างและแปลกใหม่เข้ามาร่วมงาน ซึ่งการที่ KKP เป็นธนาคารที่ยังใหม่ ทำให้เราพร้อมมอบโอกาสให้คนรุ่นใหม่ไฟแรงได้ลองเข้ามาทำสิ่งใหม่ๆ นี้ไปด้วยกัน”
นอกจากพี่ฟิลิปแล้ว Blognone ยังได้พูดคุยกับพี่หมิง เพ็ญรุ่ง สุวรรณกูฏ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ประธานสายบริหารทรัพยากรบุคคล (Head of Human Resources Management Group) ที่จะมาเล่าถึงวัฒนธรรมองค์กรของ KKP ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้เราฟังกัน
ทำไม KKP ถึงเป็นที่ทำงานที่มีความสุข?
พี่หมิงเล่าว่าใน KKP เน้นให้ทุกคนมีอิทธิบาทต่องาน และมีพรหมวิหารต่อกัน โดยพี่หมิงมองว่าอิทธิบาทต่องานเป็นพื้นฐานแห่งความสำเร็จ หมายความถึงมีความรักและศรัทธาในสิ่งที่ทำ มีความเพียร มุ่งมั่น ไม่ลดละ เอาใจใส่ในทุกรายละเอียดของงาน รู้จังหวะถอยออกมาเพื่อทบทวนและปรับปรุงเพื่อให้งานสำเร็จเป็นเลิศ ในขณะเดียวกันเราก็มีพรหมวิหารต่อกันก็คือการที่ผู้ร่วมงานมีความปรารถนาดีต่อกัน มีความเห็นอกเห็นใจ มีความยินดีกับความสำเร็จของคนอื่น รู้จักวางเฉย มีใจเป็นกลางไม่เอนเอียง ทำให้เรามีความสุข และองค์กรก็มีบรรยากาศการทำงานที่มีความสุข ทำให้ KKP เป็นองค์กรที่น่าอยู่ น่าทำงาน
คุณเพ็ญรุ่ง สุวรรณกูฏ, รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ประธานสายบริหารทรัพยากรบุคคล
นอกจากนี้ KKP ยังให้ความสำคัญกับการสื่อสารเพื่อให้พนักงานเข้าใจหลักองค์กรและสามารถนำหลักองค์กรไปใช้ในการทำงานได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยมีตัวอย่างของพนักงานที่คิดพูดทำตามหลักองค์กรเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ชัดเจน รวมถึงการคัดเลือกคนเก่งและคนดี ซึ่งเป็นคนที่มีทัศนคติและความเชื่อสอดคล้องไปกับหลักองค์กรเข้ามาร่วมงานกัน ตัวอย่างเช่น เป็นคนที่ใจสู้เมื่อเจอเรื่องยาก เมื่อแพ้รีบลุก ไม่สำเร็จไม่เลิก มีความกระหายชัยชนะ ทำเกินดีกว่าขาด และสามารถทำงานร่วมกันผู้อื่นได้ เป็นต้น
คำมั่นสัญญาของ KKP
เพราะพนักงานคือทรัพย์สินที่มีค่ามากที่สุดขององค์กร KKP จึงมุ่งมั่นตั้งใจอยากให้พนักงานทุกคนที่มาร่วมงานกับเรามีโอกาสคว้า 5 ได้ ซึ่งมีดังนี้
ได้เรียน ต้องมีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ตลอดไป หรือเป็น Lifelong Learning
ได้ทำ โอกาสได้ลงมือทำ และได้ใช้ทักษะ มาแสดงฝีมืออย่างเต็มศักยภาพ
ได้ตังค์ ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับงานที่ทำ
ได้มันส์ มีความสุข ตื่นมาอยากมาทำงาน มีแรงจูงใจที่จะทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ มีบรรยากาศที่สร้างสรรค์
ได้ภูมิใจ ได้รู้ว่าสิ่งที่ทำนั้นนอกจากสร้างประโยชน์ให้กับตัวเอง ลูกค้า องค์กร ผู้ถือหุ้นแล้ว ยังสร้างประโยชน์ให้สังคมอีกด้วย
โอกาสเปิดกว้าง พร้อมรับทุกไอเดียอย่างเท่าเทียม
พี่หมิงย้ำว่า KKP เป็นองค์กรที่รับฟังทุกความคิดเห็นด้วยใจที่เปิดกว้าง ถ้ามีไอเดียเด็ดๆ ที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่คาราคาซังได้ก็ไม่ต้องนำเสนอหลายขั้นตอนให้ซับซ้อนยุ่งยาก ขอแค่เป็นไอเดียที่ดีพอ ผ่านการปรึกษากันมาแล้ว เช็กแล้ว ก็สามารถนำไปคุยกับผู้บริหารต่อได้ง่ายๆ
นอกจากนี้ KKP ยังมีระบบ Internal Transfer ที่พนักงานสามารถขอโอนย้ายไปทำงานในส่วนที่สนใจ หรือรู้สึกว่าอยากพัฒนาทำให้ได้ พร้อมมีระบบสนับสนุนช่วยให้พนักงานก้าวไปในเส้นทางที่ต้องการเติบโตได้อย่างเต็มที่
สวัสดิการที่ตอบโจทย์และเท่าเทียม
เช่นเดียวกับที่พี่ฟิลิปได้พูดไว้ก่อนหน้านี้ พี่หมิงเองก็เน้นย้ำเรื่องสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลของ KKP อีกครั้งว่า ไม่ว่าจะเป็นพนักงานระดับไหน ทุกคนจะได้รับสวัสดิการที่ดีเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ ยังให้อิสระในการแต่งกาย เปิดกว้างต่อ LGBTQ มีสวัสดิการให้คู่สมรสที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่คู่สมรสชายหญิงเท่านั้น รวมทั้งมีความยืดหยุ่นในการทำงาน สามารถทำงานจากบ้านได้ (สำหรับบางตำแหน่งที่เหมาะสม) ช่วยลดเวลาเดินทาง ทำให้พนักงานแบ่งเวลาชีวิตได้ดีขึ้น หรือถ้าเข้ามาทำงานที่สำนักงานใหญ่ (อโศก) ก็มีฟิตเนสให้ได้ออกกำลังกาย และมี Co-Working Space ให้พนักงานทำงานร่วมกัน
เสียงจากคนทำงานจริงที่ KKP
นอกจากคำตอบของพี่ๆ ผู้บริหารทั้งสองคนแล้ว เสียงสำคัญที่จะขาดไปไม่ได้เลยก็คือ เสียงตอบรับจากเพื่อนพนักงานฝ่ายไอทีที่ทำงานอยู่ที่ KKP ซึ่งน่าจะตอบคำถามได้โดนใจพวกเราดีที่สุดว่า บรรยากาศการทำงานและความเป็นอยู่ที่ KKP จริงๆ แล้วเป็นอย่างไรบ้าง โดย Blognone ได้ไปสัมภาษณ์ชาวไอทีของ KKP มาฝาก
**เบล อัฐพร ธนชาญโรจน์สกุล Senior Mobile Developer*** ดูแลด้านทีม Delivery ฝ่าย Digital Innovation มีหน้าที่คิดนวัตกรรมใหม่ๆ ให้กับ KKP
เบลเล่าว่า เพราะ KKP เป็นองค์กรที่ไม่ได้มีลำดับขั้นซับซ้อน ทุกคนอยู่ในระนาบเดียวกัน ทำให้ทุกคนในทีมแสดงความคิดเห็นได้เต็มที่ ทุกคนมีสิทธิ์มีเสียงในการทำงานเท่ากัน ได้จับงานที่ทำเต็มที่ แถมเวลาทำงานไม่ว่าจะทีมไหนก็พร้อมจะช่วยเหลือกันโดยเน้นความสำเร็จของงานเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากเรื่องวัฒนธรรมการทำงานแล้ว สวัสดิการของ KKP เท่าที่เบลเปรียบเทียบมา ก็เรียกได้ว่าอยู่ในแนวหน้าของธุรกิจธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นเงินโบนัส การรักษาพยาบาล วันหยุด วันลา และความยืดหยุ่นในการทำงาน
ใหม่ พัชรี ตีระวัฒนานนท์ Senior Business Analyst มีหน้าที่รับความต้องการจากฝั่ง Business ในฝ่ายต่างๆ มาออกแบบโซลูชันร่วมกับทีมไอที และพัฒนาระบบมาตอบสนองธุรกิจใหม่ของ KKP เพื่อช่วยให้ฝ่ายต่างๆ ทำงานได้ง่ายขึ้น ไปจนถึงการซัพพอร์ตผู้ใช้งาน และทีมหลังจากที่โปรดักต์นั้นขึ้นสู่โปรดักชันไปแล้ว
ใหม่มองว่าสิ่งที่ต่างจากการทำงานที่อื่น คือที่ KKP เปิดกว้างในการแสดงความคิดเห็น ทุกความเห็นจะมีคนรับฟังเสมอ นอกจากนี้ด้วยความที่องค์กรไม่ได้ซับซ้อนหรือมีระยะห่างของแต่ละตำแหน่งมากจนเกินไป ก็ทำให้พนักงานได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และได้รับคำแนะนำจากผู้บริหารเก่งๆ อยู่เสมอและยังเปิดกว้างในการเปลี่ยนแปลงเพื่อเติบโต ถ้าอยากย้ายสายหรือลองไปทำหน้าที่อื่นก็สามารถทำได้ ถ้าใครที่กำลังมองหาโอกาสในการเติบโต ไปพร้อมๆ กับได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าจากการทำงานที่เต็มที่ ก็จะไม่ผิดหวังกับ KKP แน่นอน
สำหรับคนไอทีที่กำลังมองหางานในธุรกิจธนาคาร แต่ก็ไม่อยากไปทำงานในองค์กรที่มีลำดับขั้นซับซ้อน และอยากทำงานในองค์กรที่มีความทันสมัย เต็มเปี่ยมไปด้วยโอกาส มีพื้นที่ให้สามารถสร้างการเติบโตไปพร้อมๆ กันกับองค์กรได้อีกมาก KKP ก็เป็นอีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจฯ ในแวดวงธนาคารและการลงทุนที่นอกจากจะมั่นคงแล้ว ยังสามารถผลักดันหน้าที่การงานของเราให้เติบโตไปข้างหน้าได้ พร้อมกับมีความท้าทายอีกมากมายรอเราอยู่เสมอ
ใครที่สนใจ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและตำแหน่งที่เปิดรับได้ที่ https://career.kkpfg.com/