Ubisoft สตูดิโอพัฒนาเกมชื่อดังกำลังเพิ่มไพร่พลเพื่อสำหรับทำเกมขนาดใหญ่ในแฟรนไซส์เรือธงของทางค่ายอย่าง Assassin’s Creed รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายงานผลประกอบการล่าสุดของบริษัท ซึ่งทาง Ubisoft มองเห็นโอกาสความเป็นไปได้ที่ Assassin’s Creed จะเติบโตยิ่งใหญ่กว่าที่เคย
โดย Ubisoft จะเพิ่มจำนวนนักพัฒนาเกมในแฟรนไชส์ Assassin’s Creed ราว 40% ในปีต่อ ๆ ไป เพื่อกระตุ้นให้แฟรนไซส์ได้ขยายตัวมากขึ้น และตอนนี้มีคนจำนวนกว่า 2,000 คน ที่กำลังทำงานกับแฟรนไชส์นี้ ซึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้ Ubisoft ลงทุนกับเกมนี้มากขึ้นมาจากยอดขายของ Assassin’s Creed Valhalla ซึ่งเป็นภาคล่าสุดของแฟรนไชส์ที่ออกวางจำหน่ายเมื่อปี 2020
Assassin’s Creed Valhalla นั้นมีจำนวนผู้เล่นมากกว่าเกมภาคก่อนหน้าอย่าง Odyssey อยู่ที่ 19% และ Origins อยู่ที่ 44% ซึ่งถือว่าภาค Valhalla เป็นเกมภาคที่ได้รับความนิยม และทำเงินมากกว่าภาค Odyssey และ Orgins เป็นอย่างมาก
ก่อนหน้านี้ในงาน Ubisoft Forward ของปีที่แล้ว ทาง Ubisoft ได้เปิดตัวเกมใหม่ในแฟรนไชส์ Assassin’s Creed ไปถึง 5 ภาคด้วยกัน ซึ่งมี 3 ภาคสำหรับเกมคอนโซลคือ Assassin’s Creed Mirage, Codename Red และ Codename Hexe ส่วนโทรศัพท์มือถือ 1 เกมคือ Codename Jade และเกม Assassin’s Creed แบบเล่นหลายคนในชื่อ Codename Invictus โดย 4 เกมหลังเป็นแพลตฟอร์มใหม่ของแฟรนไซส์ที่ชื่อว่า Assassin’s Creed Infinity
ที่มา – The Verge