Valve ประกาศเตือนว่าฟีเจอร์ Anti-Lag และ Anti-Lag+ ที่มีในจีพียู AMD Radeon ส่งผลกระทบต่อระบบป้องกันโกงของ Counter-Strike 2 และอาจส่งผลให้ผู้เล่นโดนแบนได้

ฟีเจอร์ Anti-Lag เริ่มใช้มาตั้งแต่ยุค Radeon Polaris เป็นการควบคุมจังหวะการทำงานของซีพียู ไม่ให้ล้ำหน้าจีพียูมากเกินไป ส่งผลให้ latency ของเกมลดลง เกมตอบสนองไวขึ้น ส่วน Anti-Lag+ เพิ่งมีในจีพียูกลุ่ม RDNA 3 (Radeon RX 7000) พัฒนาไปอีกขั้นคือเข้าไปปรับตัวเกมแต่ละเกมให้ซิงก์เฟรม

ปัญหาคือ Anti-Lag+ เข้าไปยุ่งกับไฟล์ DLL ของเกม ทำให้ระบบป้องกันโกงของ CS2 มองว่าเป็นการพยายามโกงเกม แบบที่โปรแกรมโกงหลายๆ ตัวพยายามทำกัน ระบบแบนคนโกง Valve Anti-Cheat System Ban (VAC Ban) จึงทำงานและส่งผลให้ผู้เล่นจำนวนหนึ่งถูกแบน

AMD’s latest driver has made their “Anti-Lag/+” feature available for CS2, which is implemented by detouring engine dll functions.If you are an AMD customer and play CS2, DO NOT ENABLE ANTI-LAG/+; any tampering with CS code will result in a VAC ban.Once AMD ships an update we…

— CS2 (@CounterStrike) October 13, 2023

ฝั่ง AMD ก็ประกาศว่ารับทราบปัญหานี้แล้ว ตอนนี้กำลังร่วมมือกับ Valve แก้ปัญหานี้ ระหว่างนี้ก็ขอให้ผู้เล่นปิดฟีเจอร์ Anti-Lag+ ขณะเล่น CS2 ไปก่อน

AMD เป็นหนึ่งในพาร์ทเนอร์ร่วมเปิดตัว CS2 และโฆษณาว่าใช้ฟีเจอร์ Anti-Lag+ ช่วยลด latency ของเกมได้ แต่ก็ไม่รู้ว่าไปคุยกันไว้แบบไหน ระบบต้านโกงของ Valve จึงไม่รู้จักและทำงานร่วมกับ Anti-Lag+ ไม่ได้

https://t.co/LOiOIcoZsV pic.twitter.com/LvAyIOj8Ec

— AMD Radeon (@amdradeon) October 14, 2023

ที่มา – Videocardz