Jason Schreier นักข่าวสายเกมของ Bloomberg รายงานเบื้องหลังเกม Call of Duty: Modern Warfare III ที่คุณภาพของเกมออกมาแย่ ว่าเกิดจากระยะเวลาการพัฒนาที่น้อยเกินไป งานรีบเร่ง ทีมงานต้องอดหลับอดนอน ใช้เวลาวันหยุดมาพัฒนาเกมกัน

MW3 ภาคนี้พัฒนาโดยสตูดิโอ Sledgehammer Games ซึ่งต่างจากภาค MW1-MW2 ที่พัฒนาโดย Infinity Ward สตูดิโอหลักของซีรีส์ ปกติแล้วเกม Call of Duty แต่ละภาคใช้เวลาพัฒนาทั้งหมดราว 3 ปี (จึงเป็นเหตุว่าทำไม Activision ต้องวนสตูดิโอกันทำ) แต่ MW3 ออกในปีถัดมาจาก MW2 และ Sledgehammer มีเวลาพัฒนาประมาณ 16 เดือนเท่านั้น ถือว่าสั้นที่สุดในเกม Call of Duty ยุคหลังๆ

Schreier ให้ข้อมูลว่าตอนแรกนั้น Sledgehammer ที่ผลงานล่าสุดก่อนหน้านี้คือภาค Vanguard ที่ออกในปี 2021 เสนอโปรเจคโค้ดเนม Anvil ที่เป็นเกมสงครามยุคอนาคต เนื้อเรื่องในจักรวาลเดียวกับภาค Advanced Warfare (2014) ของตัวเองให้ฝ่ายบริหารของ Activision พิจารณา แต่สุดท้ายโปรเจคถูกพักไว้ เพราะฝ่ายบริหารตัดสินใจว่าจะออก Modern Warfare ภาคใหม่แทน เนื่องจากต้องการหาเกมมาอุดช่องว่างของปี 2023 ที่อีกโปรเจคหนึ่งต้องเลื่อนออกไป

ตอนแรกนั้น โครงการเกม Modern Warfare ของ Sledgehammer ที่ตอนนั้นใช้โค้ดเนมว่า Jupiter ยังเป็นแค่ภาคเสริมของ Modern Warfare 2 ที่เนื้อเรื่องเกิดในเม็กซิโก แต่สุดท้ายฝ่ายบริหารขยายขอบเขตเป็นเกมภาคต่อคือ Modern Warfare 3 ที่มีขนาดใหญ่กว่ามาก มีทั้งโหมดเนื้อเรื่องที่เกิดขึ้นทั่วโลก, มัลติเพลเยอร์ที่ต้องมีแผนที่ใหม่ และโหมดซอมบี้ ส่งผลกระทบต่อการทำงานของ Sledgehammer อย่างมาก

อีกปัจจัยที่มีผลต่อการพัฒนาคือซีรีส์ Modern Warfare เป็นของ Infinity Ward มาตลอด เมื่อ Sledgehammer ต้องมารับงานทำภาคต่อ ก็ต้องรอให้ทีมบริหารของ Infinity Ward สร้างคอนเทนต์ให้ เกิดความล่าช้าในการประสานงานไปมา และบางครั้งสองสตูดิโอก็มีความขัดแย้งกันด้วย

ทีมงานบางส่วนของ Sledgehammer จึงต้องเร่งงาน ทำงานตอนกลางคืนรือช่วงสุดสัปดาห์เพื่อพัฒนาเกมให้เสร็จ อีกทั้งยังรู้สึกผิดหวังเพราะฝ่ายบริหารเคยสัญญาไว้ตอนทำเกม Vanguard ว่าจะไม่มีงานเร่งแบบนี้อีกแล้ว แต่สุดท้ายก็ต้องมีอีก

ที่มา – Bloomberg