ไมโครซอฟท์เทียบโซนี่เป็นร้านเช่าวิดีโอ Blockbuster กำลังเจอ Netflix จากดีลซื้อ Activision – SMS Marketing ราคาถูกที่สุด
Brad Smith รองประธานบอร์ดและประธานบริษัทของไมโครซอฟท์ (president ตำแหน่งรองจาก CEO) เขียนบทความลง Wall Street Journal ชี้แจงเรื่องดีล Activision Blizzard ที่กำลังโดนหน่วยงานภาครัฐทั่วโลกเข้ามาสอบสวนในประเด็นว่าผูกขาดหรือไม่
Smith บอกว่าตอนนี้ Xbox ถือเป็นผู้เล่นเบอร์สามในตลาดคอนโซล ตามหลัง PlayStation และ Nintendo Switch แถมยังไม่มีตัวตนในตลาดเกมมือถือ ซึ่งมีแอปเปิลและกูเกิลคอยหักส่วนแบ่งอยู่ตลอด การซื้อ Activision Blizzard จะช่วยให้ไมโครซอฟท์แข่งขันได้มากขึ้น ทั้งเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคที่ใช้มือถือสเปกต่ำ สามารถเล่นเกมแบบสตรีมผ่านคลาวด์ได้แทนการดาวน์โหลดเกม โมเดลสมาชิกแบบ Game Pass ยังให้นักพัฒนามีโอกาสเข้าถึงฐานลูกค้ากว้างขึ้น
ด้วยยุทธศาสตร์นี้ ไมโครซอฟท์จำเป็นต้องมีเกมจำนวนเยอะพอในการดึงดูดลูกค้ามาจ่ายรายเดือน ซึ่ง Smith ยอมรับว่าปัจจุบันยังมีไม่พอ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมต้องซื้อ Activision Blizzard ที่มีเกมดังๆ อย่าง Candy Crush, World of Warcraft, Call of Duty
จากนั้น Smith อัดโซนี่โดยบอกว่าเป็นผู้คัดค้านดีลที่เสียงดังที่สุด (Sony has emerged as the loudest objector) โดยท่าทีของโซนี่ต่อดีลนี้เหมือนกับร้านเช่าวิดีโอรายใหญ่ Blockbuster กำลังเห็น Netflix เริ่มรุ่งเรืองขึ้นมา
ภาพโดย Stu pendousmat จาก Wikipedia
Smith บอกว่าโซนี่พยายามชูประเด็นเรื่อง Call of Duty จะไม่ลง PlayStation ซึ่งเขาบอกว่ามันไม่เมคเซนส์เลยในเชิงธุรกิจ เพราะรายได้ของ Call of Duty มีสัดส่วนจาก PlayStation อยู่เยอะ แถมธรรมชาติของการเล่น cross-play ข้ามแพลตฟอร์ม หากไมโครซอฟท์ตัดสินใจไม่เอา Call of Duty ลง PlayStation ก็จะไปกระทบกับฐานผู้เล่นของ Xbox อีกด้วย
Smith ย้ำว่าไมโครซอฟท์เสนอดีล Call of Duty บน PlayStation ระยะเวลานาน 10 ปีให้โซนี่แล้ว และยินดีเสนอดีลแบบเดียวกันให้แพลตฟอร์มอื่นด้วย เขายกตัวอย่างตอนที่ไมโครซอฟท์ซื้อ LinkedIn ว่าสัญญาให้คู่แข่งเข้าถึงเทคโนโลยีสำคัญๆ ได้ ซึ่งไมโครซอฟท์ก็รักษาคำพูดมาโดยตลอด
ที่มา – Wall Street Journal