สะเทือนวงการหนังสือ สำนักพิมพ์หยุดรับงานเรื่องสั้นชั่วคราวหลังสงสัยว่างานที่ส่งมาใช้ AI ช่วยเขียน – SMS Marketing ราคาถูกที่สุด
Clarkesworld Magazine สำนักพิมพ์นิยายวิทยาศาสตร์ต้องหยุดรับงานเรื่องสั้นจากนักเขียนชั่วคราวพร้อมแบนกว่า 500 เรื่อง เพราะใช้ปัญญาประดิษฐ์ช่วยเขียน
Neil Clarke บรรณาธิการสำนักพิมพ์ระบุว่าได้แบนหนังสือมากขึ้น 38% หรือนับเป็นทั้งหมดกว่า 500 เรื่องในเดือนนี้หลังมีสำนักข่าวหลายแห่งตีพิมพ์บทความที่แสดงความสงสัยว่ามีเรื่องสั้นจำนวนมากที่เขียนจากปัญญาประดิษฐ์โดยไม่ได้รับการเปิดเผยจากผู้ที่ส่งงานเข้ามาซึ่งผิดจากนโยบายสำนักพิมพ์ที่ห้ามไม่ให้ส่งเรื่องที่ใช้ AI ร่วมเขียนหรือใช้ AI ช่วยเขียน
ทั้งนี้ Clarke กล่าวว่าการแบนไม่ใช่การแก้ปัญหาที่แท้จริงและกระทบต่อสำนักพิมพ์ ในขณะที่การตรวจสอบว่าหนังสือเขียนโดย AI หรือไม่ก็ทำได้ยากเพราะเทคโนโลยีพัฒนาไปไกล
ท่ามกลางยุคที่ปัญญาประดิษฐ์ถูกนำมาใช้ในงานด้านคอนเทนต์มากขึ้น หนังสือใน Kindle Store ของ Amazon อย่างน้อย 200 เล่มมีชื่อ ChatGPT เป็นผู้เขียนหรือผู้ร่วมเขียน ขณะที่จำนวนหนังสือที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์เขียนจริงมีมากกว่านี้เพราะ Amazon ไม่ได้บังคับใช้เจ้าของงานต้องเปิดเผยรายละเอียด
Brett Schickler เป็นนักเขียนคนหนึ่งที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการผลิตหนังสือ อย่างเรื่อง The Wise Little Squirrel: A Tale of Saving and Investing ซึ่งเป็นหนังสือเด็กที่ทั้งเนื้อหาและภาพประกอบมาจากปัญญาประดิษฐ์ แม้ว่าเขาจะบอกว่าได้รายได้ไม่ถึง 100 ดอลลาร์สหรัฐหลังจากเริ่มขายในเดือนมกราคมแต่เขาใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นในการเขียนเพียงป้อนข้อความ (prompt) ลงใน ChatGPT
การใช้ปัญญาประดิษฐ์เขียนหนังสือทำให้เกิดข้อกังวลอย่างมาก Mary Rasenberger กรรมการบริหารของกลุ่มนักเขียน Authors Guild มองว่า ปัญญาประดิษฐ์จะแย่งงานนักเขียนที่เป็นมนุษย์ พร้อมเสนอว่าทั้งฝั่งนักเขียนและ Amazon ควรจะต้องเปิดเผยให้ชัดเจนว่าหนังสือเล่มใดใช้ปัญญาประดิษฐ์เขียนบ้าง ไม่อย่างนั้นบนแพลตฟอร์มก็จะมีแต่หนังสือคุณภาพต่ำ
นอกจากเรื่องความโปร่งใสแล้ว การใช้ปัญญาประดิษฐ์ยังมีปัญหาเรื่องข้อมูลผิดและการคัดลอกผลงานหรือสไตล์การเขียนงานมาจากผู้เขียนที่เป็นมนุษย์จริง ๆ โดยเจ้าของไม่รู้ตัวอีกด้วย อย่างกรณีที่เว็บไซต์ข่าว CNET ลองใช้โมเดลปัญญาประดิษฐ์เขียนข่าวเศรษฐกิจ 73 ชิ้น พบว่าจะมีแนวการเขียนแบบเดิมรวมทั้งมีประโยคที่เหมือนเว็บไซต์อื่นด้วย
ที่มา – Engadget