แอปเปิลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสเดือนกันยายน รายได้รวม 89,498 ล้านดอลลาร์ ลดลง 1% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิ 22,956 ล้านดอลลาร์ คิดเป็น 1.46 ดอลลาร์ต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 13%

ช่วงเดือนสุดท้ายของไตรมาสนี้แอปเปิลมีสินค้าใหม่ที่เริ่มจำหน่ายคือตระกูล iPhone 15 และ Apple Watch รุ่นใหม่

iPhone มียอดขาย 43,805 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 3% ทำสถิติสูงสุดของบริษัท เช่นเดียวกับธุรกิจ Services มีรายได้ 22,314 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 16% ที่ทำสถิติสูงสุดเช่นกัน กลุ่มที่รายได้ลดลงมากคือ Mac มียอดขาย 7,614 ล้านดอลลาร์ ลดลง 34% และ iPad 6,443 ล้านดอลลาร์ ลดลง 10% ส่วนกลุ่ม Wearables, Home, Accessories 9,322 ล้านดอลลาร์ ลดลงเล็กน้อย 3%

ซีอีโอ Tim Cook ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่า iPhone 15 มียอดขายที่ดีกว่า iPhone 14 เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันหลังเปิดตัว และบอกว่ารุ่น Pro กับ Pro Max มีปัญหาสินค้าขาดตลาดเนื่องจากความต้องการสูง

ในช่วงแถลงผลประกอบการกับนักวิเคราะห์โดยซีอีโอ Tim Cook และซีเอฟโอ Luca Maestri มีประเด็นน่าสนใจเพิ่มเติมดังนี้

ยอดขายในอินเดียทำสถิติใหม่สูงสุด รวมทั้งอีกหลายประเทศเช่น บราซิล, แคนาดา, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, เวียดนาม และมีอีกหลายประเทศ
Cook อ้างข้อมูลการศึกษาล่าสุดของ StudentMonitor พบว่านักศึกษาเกือบ 2 ใน 3 ตอนนี้เลือกใช้ Mac
จำนวนอุปกรณ์ที่เปิดใช้งานรวมทำสถิติสูงสุด และทำสถิติสูงสุดในทุกภูมิภาค
Mac รายได้ลดลง 34% เป็นผลจากยอดขายไตรมาสเดียวกันในปีก่อนที่สูงมากกว่าปกติ เพราะมีคำสั่งคงค้างที่ผลิตไม่ทันจากปัญหาชิปขาดแคลน
ผู้ซื้อ Mac ครึ่งหนึ่งเป็นลูกค้าใหม่ที่ไม่เคยใช้ Mac มาก่อน สินค้าที่ขายดีคือ MacBook Air
Cook คิดว่า Mac M3 ที่เพิ่งเปิดตัวจะช่วยให้ยอดขายในไตรมาสธันวาคมดีขึ้น
ลูกค้า Subscription แบบจ่ายเงินผ่านแพลตฟอร์มมีมากกว่า 1 พันล้านบัญชีแล้ว
ประเมินยอดขายไตรมาสธันวาคมว่าใกล้เคียงกับปีก่อน อีกเหตุผลคือไตรมาสของปีนี้มีจำนวนสัปดาห์น้อยกว่าปี 2022
เมื่อถามถึง Generative AI ที่หลายบริษัทต่างลงทุน Cook ไม่ได้ให้รายละเอียด แต่บอกว่าแอปเปิลมีการลงทุนพัฒนา AI เป็นเงินพอสมควร และเห็นเทคโนโลยีเหล่านี้ในสินค้ามาโดยตลอดอยู่แล้ว

ที่มา: แอปเปิล และ MacRumors