ในงาน AIS Business Digital Future 2024: DIGITAL INDUSTRY EVOLUTION ที่ผ่านมามีการนำเสนอถึงเทคโนโลยีและแนวทางการใช้งานบริการต่างๆ ของ AIS ต่อโลกธุรกิจที่ต่างไปจากการใช้งานของผู้ใช้ทั่วไปที่มักใช้งานเครือข่ายโทรศัพท์มือถือทั้งบริการ 5G และบริการอินเทอร์เน็ตบ้าน แต่ในโลกธุรกิจนั้นมีความต้องการใช้งานเทคโนโลยีในรูปแบบที่ต่างออกไปจากผู้ใช้ตามบ้านทั่วไป หลายองค์กรมีแนวทางที่ใช้งานต่างกันแม้จะเป็นเครือข่าย 5G เหมือนกันก็ตาม

งานครั้งนี้ AIS Business เล่าถึง 3 แพลตฟอร์มหลักของ AIS ที่ให้บริการแก่ลูกค้าระดับองค์กร ได้แก่ AIS Cloud X, PARAGON Platform, และ CPaaS ที่สามารถให้บริการระบบไอทีขององค์กรได้ครบวงจรตั้งแต่ระดับแอปพลิเคชันที่องค์กรใช้งานโดยตรงไปจนถึงระดับโครงสร้างพื้นฐานที่องค์กรต่างๆ ไม่ต้องเสียทรัพยากรมาดูแลเอง

AIS Cloud X บริการคลาวด์ในประเทศที่พร้อมใช้งานวันนี้

บริการตัวแรกคือ AIS Cloud X นั้นเป็นบริการที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2022 ที่ผ่านมาและมีการให้บริการต่อเนื่อง โดยรองรับความต้องการขององค์กรธุรกิจต่างๆ ที่ต้องการใช้คลาวด์ ในประเทศ ทั้งการประมวลผล (IaaS), การเก็บข้อมูล, DR Backup และต้องการความปลอดภัยและเชื่อถือได้สูง ซึ่ง AIS มีมาตรฐานในระดับ Sovereign Cloud จาก VMware และให้บริการบน Data Center ระดับ Telecom Grade ที่ได้เปรียบจากการเชื่อมต่อตรงกับโครงข่ายความเร็วสูงของ AIS และยังเชื่อมต่อกับ Hyperscale Cloud เช่น Microsoft Azure, AWS เพื่อทำ Hybrid / Multi Cloud ได้อย่างดีด้วย

AIS PARAGON Platform เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันบนเครือข่าย 5G

AIS PARAGON Platform ช่วยให้นักพัฒนา และองค์กรที่ต้องการใช้งาน 5G และ Edge Computing สามารถทำได้อย่างสะดวกและรวดเร็วขึ้น โดยแพลตฟอร์มนี้ ช่วยให้จัดการทั้ง 5G และ Edge Computing ได้ในที่เดียว ทำให้รวมเอาทั้งความได้เปรียบของเครือข่าย 5G มารวมกับแอปพลิเคชันต่างๆ ที่เคยจำเป็นต้องติดตั้งใกล้กับบริเวณที่ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลจากเซ็นเซอร์ต่างๆ ในโรงงาน การวิเคราะห์ภาพความละเอียดสูง

ระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ

ในงานครั้งนี้ AIS Business ได้นำแอปพลิเคชันต่างๆ ที่สามารถใช้งาน AIS PARAGON Platform มานำเสนอจำนวนมาก เช่น ระบบการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยปัญญาประดิษฐ์ ที่ออฟฟิศหรือโรงงานจะสามารถวิเคราะห์ภาพ ตรวจสอบการทำงานว่าเป็นไปตามข้อกำหนด เช่น การใส่หมวกนิรภัยในพื้นที่ควบคุม การเก็บข้อมูลจากเซ็นเซอร์ต่างๆ หรือการควบคุมหุ่นยนต์ผ่านเครือข่าย

โซลูชันกลุ่มหนึ่งที่นำมาสาธิตในงานครั้งนี้ คือโซลูชันสำหรับธุรกิจลอจิสติก ที่ครอบคลุมตั้งแต่ระบบหุ่นยนต์ในคลังสินค้าที่สามารถทำงานอัตโนมัติเต็มรูปแบบไปจนถึงบริการแผนที่เพื่อการจัดการรถขนส่งต่างๆ ให้องค์กรสามารถรวมเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการลอจิสติกภายในองค์กร

AIS PARAGON Platform นั้นเปิดให้องค์กรสามารถพัฒนาหรือเลือกใช้แอปพลิเคชันเหล่านี้ไปพร้อมกับการใช้งานโครงข่าย 5G โดยเฉพาะการประมวลผลที่สามารถอยู่ใกล้กับโรงงานหรือสำนักงานมากๆ ด้วยบริการ MEC (Multi-access Edge Computing) และหากมีความต้องการใช้งานเครือข่าย 5G ในรูปแบบที่เฉพาะ ต้องการความปลอดภัยและเสถียรภาพสูงแยกออกจากเครือข่ายทั่วไปก็สามารถเลือกใช้บริการ Private 5G เป็นเครือข่ายส่วนตัวที่ AIS เข้ามาดูแลโดยเฉพาะได้เช่นกัน

CPaaS แพลตฟอร์มจัดการการสื่อสารได้อย่างเต็มรูปแบบ

บริการตัวที่ 3 ที่นำมาสาธิตในงานคือ CPaaS ที่เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการจัดการการสื่อสารได้หลากหลายรูปแบบ เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการพัฒนาแอปพลิเคชัน หรือระบบงานที่ต้องมีการสื่อสารกับลูกค้า โดยการเชื่อมต่อ API กับ CPaaS เพียงที่เดียว แต่สามารถสื่อสารได้ทั้งการโทร การส่งข้อความ และการเชื่อมต่อกับ 3rd party อื่นๆ เช่น Microsoft Teams, Zoom, ERP, CRM พร้อมความสามารถ พิเศษ​ เช่น Number Masking API

แนวทางการใช้งาน CPaaS สำคัญที่สาธิตในงานครั้งนี้คือบริการส่งสินค้าต่างๆ ที่เดิมผู้ใช้มักได้รับหมายเลขโทรศัพท์แปลกๆ จากพนักงานส่งสินค้า หากลูกค้าไม่ได้รับสายและมีคำสั่งพิเศษบางอย่าง เช่น ผู้รับไม่อยู่บ้านต้องฝากไว้บางจุดก็อาจจะทำให้ส่งสินค้าไม่สำเร็จไปเลย CPaaS เปิดทางให้บริษัทขนส่งสามารถใช้ Number Masking API โปรแกรมให้หมายเลขโทรออกกลายเป็นหมายเลขขององค์กรเท่านั้น ทำให้ลูกค้าเห็นทันทีว่าเป็นบริษัทขนส่งโทรเข้ามา และหากโทรผ่านแอปพลิเคชั่น พนักงานขนส่งเองก็อาจจะไม่ต้องเห็นหมายเลขโทรศัพท์ลูกค้าแม้แต่น้อย ลดความเสี่ยงข้อมูลลูกค้าหลุดไปได้อีกชั้น

CPaaS เปิดทางให้องค์กรสามารถปรับแต่งการใช้งานโทรศัพท์ได้หลากหลาย เช่น ลูกค้าสามารถโทรเข้ามายังองค์กรแล้วระบบสามารถส่งสายเข้าไปยังพนักงานที่ดูแลลูกค้ารายนั้นอยู่ได้ในทันทีโดยลูกค้าไม่ต้องคุยกับโอเปอร์เรเตอร์แม้แต่น้อย แต่ระบบสามารถเชื่อมกับ CRM ภายในองค์กรได้โดยตรง

บริการระดับองค์กรที่ได้รับการพิสูจน์แล้วจากองค์กรขนาดใหญ่จำนวนมาก

นอกจากการนำเสนอแพลตฟอร์มต่างๆ แล้ว ในงาน AIS Business Digital Future 2024: DIGITAL INDUSTRY EVOLUTION ครั้งนี้ลูกค้าของ AIS ที่ทั้งธุรกิจค้าปลีก, ลอจิสติก, และภาคการผลิต ก็มาร่วมงานนำเสนอแนวทางการใช้งานแพลตฟอร์มต่างๆ ของ AIS Business กันอย่างเนืองแน่น แสดงให้เห็นว่าแพลตฟอร์มของ AIS Business พร้อมให้บริการแล้ว

Siam Toyota Manufacturing (STM) เล่าถึงการวางเครือข่าย IoT จำนวนมากเพื่อตรวจสอบการผลิต พร้อมกับการใช้ Energy Platform ที่ AIS Business พัฒนาร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (FTI) มาใช้งานเพื่อให้ปรับปรุงการใช้พลังงานในโรงงานได้ดีขึ้น เดิมนั้นระบบเหล่านี้ต้องอาศัยคนจดข้อมูลจากเซ็นเซอร์ต่างๆ หลังจากนั้นก็ปรับมาใช้ Wi-Fi และ LoRA ที่เป็นคลื่นที่ใช้งานได้เสรี แต่กลับพบว่าเครือข่ายนั้นขาดความเสถียร การปรับปรุงล่าสุดที่ AIS เข้าไปร่วมมือคือการใช้เครือข่าย 5G ทำให้สามารถใช้งานเครือข่ายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สามารถเชื่อมต่อข้อมูลทั้งการใช้พลังงานและข้อมูลการผลิตเข้ากับระบบ ERP ได้ทันที

Somboon Advance Technology (SAT) เล่าถึงการใช้ระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ ระบบขนส่งแบบไร้คนขับ เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการคลังสินค้าดีขึ้นกว่า 60% โดยระบบเหล่านี้ต้องการเครือข่ายไร้สายที่เสถียรและมี latency ที่ต่ำเพื่อให้ควบคุมจากศูนย์กลางได้ ขณะที่ Hutchison Ports Thailand ผู้ให้บริการท่าเรือแหลมฉบัง ใช้งานเครือข่าย 5G เพื่อการสั่งการรถบรรทุกไร้คนขับที่นับเป็นท่าเรือแห่งแรกที่ใช้งานร่วมกันทั้งรถบรรทุกไร้คนขับและรถบรรทุกมีคนขับปกติร่วมกันในพื้นที่เดียวกัน

แพลตฟอร์มเพื่อการทำธุรกิจในโลกยุคต่อไป

บริการต่างๆ ที่ AIS Business นำเสนอในงานครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความพร้อมที่จะให้บริการภาคธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบ และสามารถให้บริการในทุกระดับตั้งแต่ระดับโครงข่ายที่เป็นจุดแข็งของ AIS มาโดยตลอด ไปจนถึงระดับแอปพลิเคชันที่องค์กรต่างๆ ต้องการใช้งาน แนวทางนี้และลูกค้าของ AIS Business ที่มายืนยันว่าสามารถใช้งานบริการต่างๆ ได้แล้วในธุรกิจจริง น่าจะทำให้เราได้เห็นธุรกิจต่างๆ เข้ามาใช้แพลตฟอร์มของ AIS Business มากยิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต

สำหรับองค์กรธุรกิจในทุกภาคอุตสาหกรรมที่สนใจแพลตฟอร์มต่างๆ ของทาง AIS Business สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ais.th/business/enterprise

AIS Business พร้อมเป็นพันธมิตรดิจิทัล ที่มั่นใจได้ เพื่อพัฒนาธุรกิจและสังคมไทย เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน
“Your Trusted Smart Digital Partner”

ปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อรองรับการทำงาน และต่อยอดธุรกิจได้ที่
Email: business@ais.co.th
Website: https://www.ais.th/business