ความรุนแรงจากการใช้อาวุธปืนในประเทศสหรัฐฯ กลายเป็นประเด็นสำคัญที่ขยายวงกว้าง ชาวอเมริกันจำนวนมาก รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่เกินกว่าที่จะทนได้ ประเทศสหรัฐฯ แบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายเมื่อมีการพูดถึงสิทธิ์ในการใช้อาวุธปืนและกฎหมายควบคุม ที่ผ่านมาเกิดเหตุยิงกราดทั้งในพื้นที่ของโรงเรียน ซุปเปอร์มาร์เก็ต รวมไปถึงขบวนพาเหรดตามชุมชน ทำให้เกิดความพยายามที่นำเอาเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อมาช่วยบรรเทาเหตุการณ์ลักษณะนี้ รวมถึงคาดว่าอาจที่จะลดการเสียชีวิตที่เกิดจากความรุนแรงในการใช้อาวุธปืน
บริษัท ZeroEyes ที่ทำธุรกิจจำหน่ายซอฟต์แวร์ที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เพื่อช่วยวิเคราะห์ภาพจากวิดีโอ โดยไมค์ เลฮิฟ ซีอีโอของบริษัท ZeroEyes เล่าให้ VOA ฟังว่า “ภายหลังเกิดเหตุยิงกราดที่โรงเรียนในเมืองพาร์คแลนด์ รัฐฟลอริดา ในปี 2018 ส่งผลให้โรงเรียนของลูกสาว เริ่มทำการฝึกซ้อมวิธีรับมือหากเกิดเหตุยิงกราด พอลูกสาวกลับมาบ้าน พร้อมบอกว่าเธอรู้สึกแย่มากที่ต้องเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้ และปัญหานี้ควรที่จะยุติและต้องทำอะไรสักอย่าง”
คำพูดของลูกสาวได้จุดประกายความคิด เลฮิฟ บอกว่า “เราเคยเห็นการใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้ามาก่อน แล้วจะเป็นไปได้ไหม ที่จะนำเอาเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้ เพื่อทำให้กล้องรักษาความปลอดภัยสามารถตรวจจับอาวุธปืนได้”
บริษัท ZeroEyes ได้พัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อตรวจจับอาวุธปืนโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากกล้องรักษาความปลอดภัย เลฮิฟ อธิบายขั้นตอนภายหลังจากที่ซอฟต์แวร์ตรวจพบอาวุธปืน โดยชี้ว่า “การแจ้งเตือนจะถูกส่งไปยังศูนย์ปฏิบัติการ ZeroEyes ที่ตั้งอยู่นอกเมืองฟิลาเดลเฟีย ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่พร้อมผู้ชำนาญการ ประจำอยู่ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง และเมื่อแน่ใจว่าสิ่งที่ตรวจจับได้คืออาวุธปืนจริงๆ เจ้าหน้าที่จะส่งสัญญาณเตือนไปยังผู้ใช้บริการ พร้อมกับโทรแจ้งเหตุฉุกเฉินต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ”
โดยระบบจะสามารถให้หลักฐานที่เป็นภาพของบุคคลต้องสงสัยที่มีสิทธิ์ก่อเหตุยิงกราด รายละเอียดและประเภทของอาวุธ รวมถึงพิกัดของบุคคลดังกล่าว ซีอีโอของบริษัท ZeroEyes เสริมว่า “รายละเอียดเหล่านี้ มีความสำคัญอย่างมาก เพราะจะช่วยย่นระยะเวลา และนำไปสู่การรับมือที่ไวขึ้น”
คริสโตเฟอร์ ไฮลิก ผู้บริหารที่ดูแลโรงเรียนมัธยมปลาย Rancocas Valley Regional High School ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ เป็นที่แห่งแรกที่ใช้งานซอฟต์แวร์ของ บริษัท ZeroEyes ไฮลิก กล่าวว่า “เมื่อเราทำการซ้อมรับมือเหตุยิงกราดพร้อมใช้เทคโนโลยีดังกล่าว พบว่าข้อมูลจาก ZeroEyes นั้นมีประโยชน์อย่างมาก”
จากการฝึกซ้อมป้องกันเหตุยิงกราดภายในโรงเรียน ระบบสามารถตรวจจับผู้ครอบครองอาวุธได้ภายในเวลาเพียง 90 วินาที ซึ่งถือว่าตรวจพบได้ไวกว่าราวครึ่งหนึ่ง เมื่อเทียบกับการไม่ใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย ไฮลิก ให้ทัศนะว่า “ในสถานการณ์เช่นนี้ การย่นระยะเวลา หมายถึงการช่วยลดความเสี่ยงของเหตุรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น”
สำหรับพื้นที่สาธารณะขนาดใหญ่ บางแห่งเลือกใช้ซุ้มจุดตรวจคัดกรองของบริษัท Evolv Technology ซึ่งมีเซ็นเซอร์วัดคลื่นความถี่ระดับมิลลิเมตร พร้อมเทคโนโลยีตรวจจับปืนและอาวุธอื่นๆได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งแทบจะไม่สร้างการรบกวน อีกทั้งยังรองรับการคัดกรองผู้คนได้จำนวนนับพันคน
ปีเตอร์ จอร์จ ประธานบริษัท Evolv Technology ให้สัมภาษณ์ว่า “เราใช้ปัญญาประดิษฐ์ที่เป็นเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อทำการค้นหา รวมถึงระบุความแตกต่างระหว่างอุปกรณ์ที่คนมักจะพกพา อย่างเช่น โทรศัพท์มือถือ แยกออกจากอาวุธที่อาจก่อภัยคุกคาม”
ในปี 2022 เกิดเหตุยิงกราดในประเทศสหรัฐฯ ไปแล้ว มากกว่า 300 ครั้ง แม้เทคโนโลยีจะไม่สามารถป้องกันเหตุอันน่าเศร้าสลดเหล่านี้ได้อย่างทั้งหมด แต่เชื่อว่าความก้าวหน้าดังกล่าว เป็นหนึ่งในความพยายามเพื่อที่จะปกป้องประชาชนในพื้นที่สาธารณะให้เกิดความปลอดภัยมากขึ้น
ที่มา: วีโอเอ